หลุดสเปค รีวิว Google Pixel 6 Pro พร้อมภาพตัวอย่างก่อนประกาศจำหน่ายจริง ลือว่าอาจเปิดตัวในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ มากับหน้าจอขนาด 3120 x 1440 พิกเซล, แบตเตอรี่ไซซ์อึด ความจุ 5000 mAh และชิปประมวลผลกราฟิก ARM Mali-G78 – 848 MHz รวมไปถึงกล้องหลังระดับความละเอียด 50 ล้านพิกเซล
หลุดสเปค รีวิว Google Pixel 6 / Pro
หลังจากที่พี่ใหญ่อย่าง Apple ได้ปล่อยสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ iPhone 13 Series ทั้ง 4 รุ่น มาสร้างความฮือฮาไปเป็นที่เรียบร้อย ล่าสุดทางฝั่ง Google ก็ไม่นิ่งดูดาย เผยภาพทีเซอร์ พร้อมข้อมูลเครื่องเบื้องต้นกับ Google Pixel 6 Pro ที่จะกลบฝังความผิดหวังในสมัย Google Pixel 5 ให้มลายหายไป ถึงแม้ว่าจะยังไม่เปิดตัวในเร็ววัน แต่ก็เข้ามาชมข้อมูลคร่าว ๆ ในบทความนี้กันก่อนได้เลย เผื่อว่าจะเป็นแนวทางในการตัดสินใจ เมื่อมีประกาศวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
โดยข่าวลือนี้เริ่มต้นจากโพสต์ทวิตเตอร์ของหัวหน้าบรรณาธิการ XDA Developers ที่ได้กล่าวไว้ประมาณว่า ถึงเวลาแล้วสำหรับ Pixel 6 พร้อมกับเผยรายละเอียดสเปคต่าง ๆ ออกมายั่วสาวก Pixel กันให้เนื้อเต้น ซึ่งข้อมูลที่หลุดออกมา ส่วนใหญ่จะเป็นทางฝั่งของ Pixel 6 Pro แต่คาดว่าอีกไม่นานน่าจะมีรายละเอียดสเปครุ่นอื่น ๆ มาให้ได้ชมกัน
หัวหน้าบรรณาธิการ XDA Developers ระบุว่า Pixel 6 Pro อาจจะใช้ระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย Linux Kernel 5.10 LTS, ผสานการประมวลผลด้วยชิป Tensor ที่พัฒนาโดย Google และหน่วนประมวลผลกราฟิก GPU แบบ ARM Mali-G78 – 848 MHz พร้อมทำงานบนหน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR5 เริ่มต้นที่ 12 GB
ส่วนกล้องหลังนั้นจะมีมาให้ทั้งหมด 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก Wide ใช้เซ็นเซอร์ของทาง Samsung ระดับความละเอียดสูงสุด 50 ล้านพิกเซล, กล้องรอง Ultra Wide ความละเอียดสูงสุด 12 ล้านพิกเซล และกล้อง Telephoto เซ็นเซอร์จาก Sony ความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล สำหรับกล้องหน้าเซลฟี่เซ็นเซอร์ Sony IMX363 ความละเอียดสูงสุดจะอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซล
แบตเตอรี่ ข้อมูลทางด้านของแบตเตอรี่การใช้งาน จะมีขนาดความจุมากถึง 5000 mAh รองรับโหมด Battery Share supported สำหรับการเปลี่ยน Pixel 6 Pro เป็นเพาเวอร์แบงค์สำรองเพื่อทำการชาร์จให้กับอุปกรณ์อื่น ๆ ในกรณีฉุกเฉินได้อีกด้วย
แถมทางด้านหน้าจอแสดงผลยังสามารถปรับตั้งค่าอัตราการ Refresh Rate จาก 60 Hz ได้สูงสุดถึง 120 Hz เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย แต่ยังไม่ยืนยันว่าจะมีการใส่ฟีเจอร์ VRR (อัตราการรีเฟรชตัวแปร สำหรับให้ภาพมีความลื่นไหลขณะใช้งาน) หรือไม่
ฟีเจอร์อื่น ๆ บรรณาธิการ XDA Developers ยังเผยอีกว่าบนมือถือ Pixel 6 Pro จะใช้ระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย Linux Kernel 5.10 LTS ที่สนับสนุนการทำงานจาก AMD Zen 3 processors และจะซัพพอร์ตสายการผลิตของ Pixel 6 Series ต่อเนื่องไปตลอด 5 ปี หรือก็คือยาวไปจนถึงปี 2026 แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ซึ่งในใจก็แอบหวังว่าจะได้ใช้จริงเหมือนกัน
เทียบสเปค iPhone 12 Series vs iPhone 13 Series ความเหมือนที่แตกต่าง?
เทียบสเปค iPhone 12 Series vs iPhone 13 Series แม้เหมือน(มาก) แต่ก็จะขุดมาเทียบให้ได้อ่านกัน ซึ่งนอกจากการปรับเปลี่ยนดีไซน์เพียงเล็กน้อย กับสเปคกล้องที่แทบไม่มีอะไรเหวือหวา ก็คงจะมีชิปประมวลผล Apple A15 Bionic (5 นาโนเมตร) ที่เป็นจุดชูโรงสำหรับรุ่น 13 Series และหน่วยประมวลผลต่าง ๆ ที่อัปเกรดมาอย่างประปราย แต่ขึ้นชื่อว่ารุ่นใหม่ ก็ต้องดีกว่าตัวก่อนอยู่แล้ว!
เป็นกระแสฮือฮาอย่างมากหลังจากการเปิดตัว iPhone 13 Series ทั้ง 4 รุ่น ภายในงาน Apple’s California Streaming เมื่อคืนวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา กับการขุดหาความแตกต่างอย่างสุดฝีมือจากบรรดากูรูทั้งฝั่งไทย และต่างประเทศ ว่าเจ้ารุ่น 13 Series จะมีอะไรโดดเด่นกว่ารุ่น 12 Series นอกจากตัวเลขที่เปลี่ยนไปบ้าง โดยโพสต์นี้เราจะมาคลายความสงสัยให้กับผู้อ่านได้กระจ่างกันถึงความแตกต่างนี้ ในบทความ เทียบสเปค iPhone 12 Series vs iPhone 13 Series ถ้าพร้อมแล้วก็ลุยอ่านต่อได้เลย
เริ่มจากภายในกันก่อนกับชิปเซ็ตประมวลผล Apple A15 Bionic (5 nm) ที่ทางแอปเปิลเคลมว่า “เป็นชิปที่เร็วที่สุดในสมาร์ทโฟน” แต่ก็ไม่ได้เร็วกว่าโปรเซสเซอร์ A14 Bionic ของ iPhone 12 Series มากเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานถ่ายภาพ เล่นเกม หรือเปิดแอปฯ ใช้งานทั่วไป สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ก็ยังคงทำได้ดีเช่นเดียวกันบน iPhone 12 Series
โหมดกล้อง สำหรับกล้องถ่ายภาพก็เช่นเดียวกัน คือมีความละเอียดสูงสุดอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซล เหมือนกันทั้งใน iPhone 12 Series กับ iPhone 13 Series
แต่จะต่างกันที่รูปลักษณ์ของโมดูลกล้องหลัง ซึ่งมีการวางตำแหน่งเป็นแนวทแยงใน iPhone 13 mini / iPhone 13 จากเดิมที่เรียงเป็นเส้นตรงใน iPhone 12 mini / iPhone 12
จะดีตรงที่ในส่วนของเซ็นเซอร์กล้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้น สำหรับรองรับการซูม และการปรับรูรับแสง โดยเฉพาะบน iPhone 13 Pro / Pro Max ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า iPhone 12 Pro / Pro Max ในแง่ของฟีเจอร์ Cinematic Mode และ ProRes กับฟังก์ชันการโฟกัส ซึ่งจะเปลี่ยนระยะชัดลึกแบบอัตโนมัติ พร้อมกับฟีเจอร์อื่น ๆ ที่มีมาให้เทียบเท่าการถ่ายทำโฆษณา หรือภาพยนตร์ ระดับมือโปร
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> ป๊อกเด้งออนไลน์