จอตั้งได้ รีวิว Lenovo Yoga Tab 13 แท็ปเล็ตลำโพงคุณภาพ JBL มาพร้อมช่องพอร์ต HDMI สำหรับต่อเป็นหน้าจอรอง เพื่อขยายขอบเขตการทำงานให้กว้างกว่าเดิม และขาตั้งวางอเนกประสงค์ สำหรับการรับชมภาพยนตร์ หรือการประชุมออนไลน์ที่ลื่นไหลยิ่งขึ้น
ช่วงนี้ขอแนะนำแท็ปเล็ต จอตั้งได้ กับ รีวิว Lenovo Yoga Tab 13
ที่มีจุดชูโรงในเรื่องของระบบปฏิบัติการ Android รุ่นใหม่ และพอร์ตเชื่อมต่อ HDMI สำหรับเพิ่มหน้าจอมอนิเตอร์ เอาไว้ใช้เป็นหน้าจอแสดงผลรอง เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำงานหลายหน้าจอพร้อมกัน อีกทั้งยังยกระดับความบันเทิงด้วยหน้าจอแบบ LTPS ที่มีคุณสมบัติลดแสงสะท้อน, ลำโพง 4 มุมจาก JBL ใช้เทคโนโลยีระดับ Dolby Atmos พร้อมมอบประสบการณ์แสงสีเสียงได้แบบครบเครื่อง
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้เลย สำหรับการเพิ่มพอร์ต HDMI เพื่อเชื่อมต่อมอนิเตอร์ หรือหน้าจอโทรทัศน์ ในการใช้งานเป็นหน้าจอรอง ทำให้ช่วยขยายขอบเขตการทำงานให้มีความมัลติทาสกิ้ง และรอบด้านมากยิ่งขึ้น เป็นฟีเจอร์ที่ไม่ได้พบเห็นบ่อย ๆ บนอุปกรณ์แท็ปเล็ตยุคนี้ ที่จะเน้นช่องพอร์ตสำหรับการชาร์จกระแสไฟ และเชื่อมต่อกับหูฟังอย่างเดียว
Yoga Tab 13 ใช้หน้าจอแสดงผลแบบ LTPS 13 นิ้ว ขนาดภาพ 2160 x 1350, รองรับอัตราการ Refresh Rate 60 Hz, ให้ค่าความสว่างมาสูงสุด 400 nits เลือกใช้เทคโนโลยีด้านภาพจาก Dolby Vision HDR ซึ่งนอกจากจะให้ภาพคมชัดแล้ว ยังมอบสีสันที่สวยสดมากอีกด้วย พร้อมรับชมความบันเทิงเต็มขั้น ด้วยลำโพงสุดล้ำจาก JBL และเทคโนโลยีโดย Dolby Atmos สามารถเพิ่มเสียงเบสได้สูงสุด 450Hz , แสดงค่าความต่างของเฉดสี sRGB 100 เปอร์เซนต์ เพื่อให้เช็กสีและทำงานด้านการออกแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีขาตั้งส่วนเสริมบริเวณด้านหลัง เพื่อรองรับการใช้งานแบบอเนกประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นการรับชมภาพยนตร์ หรือเปิดคลิปสอนทำอาหารไปพร้อม ๆ กัน
ขับเคลื่อนประสิทธิภาพภายในด้วย CPU octa-core จากเทคโนโลยีรุ่นล่าสุด ARM และยกระดับศักยภาพให้ดีกว่าเดิมในการเลือกใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 870 Mobile Platform มอบความเร็วการโปรเซสสูงสุด 3.2 GHz พร้อมผสานการทำงานกราฟิกบน MediaTek ระดับเรือธงอย่างชิปเซ็ต G90T, เลือกใช้หน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR5 ขนาด 8 GB และพื้นที่ความจำเครื่อง ROM ขนาด 128 GB / 256 GB, รองรับระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วยอินเทอร์เฟซความบันเทิงแบบใหม่ด้วย Entertainment Space
มีความจุขั้นต่ำ 10000 mAh สามารถใช้งานเปิดวิดีโอได้นานสูงสุด 12 ชั่วโมง ที่ระดับความชัด 1080p, รองรับการชาร์จไวมากถึง 30 Watt ซึ่งถือว่าใช้ได้ยาวนานมากสำหรับแท็ปเล็ตหน้าจอเพียง 13 นิ้ว
จากที่กล่าวไปข้างต้นว่า Yoga Tab 13 ติดตั้งลำโพง JBL สี่ตัว ซึ่งขับเคลื่อนคุณภาพเสียงด้วย Dolby Atmos สำหรับการรับฟังเสียงที่เต็มขั้น แถมยังเพิ่มระดับความดังได้มากถึง 104 dB เรียกว่าได้ทั้งเสียงกลาง และเสียงเบสคุณภาพดีเยี่ยมคุ้มเกินแท็ปเล็ตเครื่องนี้ไปมาก
ในส่วนของกล้องหลังสำหรับถ่ายภาพนั้นจะมีเฉพาะรุ่น Lenovo Tab M7 (3rd Gen) และ Lenovo Tab M8 (3rd Gen) แต่รุ่น Yoga Tab 13 จะใช้เป็นกล้อง ToF สำหรับคุณสมบัติ Face Unlock และการใช้งานสนทนา Video Call ทั่วไป
ข้อสังเกตอื่น ๆ Yoga Tab 13
Yoga Tab 13 มีดีไซน์ที่เพรียวบางตามสไตล์แท็ปเล็ตยุคนี้ แต่ด้วยโมดูขาตั้งที่ใส่มา ทำให้ผู้ใช้อาจถือจับไม่กระชับมือ และต้องใช้สองมือในการถือเพื่อใช้ในการนำเสนองาน บวกกับน้ำหนัก 830 กรัม หรือเกือบ ๆ 1 โล สำหรับอุปกรณ์การชาร์จและอื่น ๆ ทำให้มองว่า Yoga Tab 13 ไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแท็ปเล็ตเบา เน้นพกพาไม่หนักกระเป๋า เพราะน้ำหนักที่ได้มาก็พอ ๆ กับแล็ปท็อปเครื่องเบา บางรุ่นเลย และอีกหนึ่งจุดสังเกตใหญ่คือการไม่มีกล้องกล้องหลังมาให้ ซึ่งการมีกล้องหลังติดมาด้วยจะช่วยขยายขอบเขตการทำงานได้มากขึ้นกว่าเดิมทั้ง การประชุม เรียนออนไลน์ หรือสนทนาแบบ Video Call แต่จะมีเพียงกล้องหน้า ToF หรือกล้องวัดระยะความลึกในการปลดล็อกเครื่อง
ราคา และการวางจำหน่าย Lenovo Yoga Tab 13 มีราคาปัจจุบันที่ต่างประเทศอยู่ที่ $679.99 หรือราว ๆ 22,677.67 บาท โดยยังไม่มีกำหนดการหรือข้อมูลการวางจำหน่ายบนเว็บไซต์ Lenovo Thailand ซึ่งจะประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่นั้น ก็คงต้องรอติดตามกันอีกที ส่วนใครที่อยากเช็กสเปคจากต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูที่เว็บไซต์ Lenovo ได้เลยนะครับ
นักออกแบบระบบเศรษฐกิจของเกมส์อาวุโส (senior game economy designer) ที่จะต้องมีความรู้/ไหวพริบในการออกแบบเกมส์ควบคู่ไปกับความรู้ในด้านต่าง ๆ ที่ช่วยให้เกมส์นั้นดำรงอยู่ได้ในฐานะบริการ และสร้างรายได้เป็นอย่างดี
นักออกแบบด่านอาวุโส (senior level designer) ที่มีประสบการณ์การทำงานในการสร้างเกมส์ที่มีองค์ประกอบแบบโลกเปิด (Open World) และ/หรือ เคยมีประสบการณ์ในการพัฒนาเกมส์โหมดการเล่นผู้เล่นหลายคน (Multiplayer)
ทั้งนี้แล้วทั้งหมดอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง หรือพลิกไปอีกหนึ่งก็ได้ เพราะข่าวที่ว่านี้ยังเป็นเพียงแค่ข่าวลือที่มาจากแหล่งข่าวหลายสาย และการคาดการณ์ในเบื้องต้น
ยังไม่มีการยืนยัน หรือข้อมูลที่หนักแน่นมากพอว่า QD นั้นจะพัฒนาเกมส์จาก Star Wars จริง และหากพัฒนาจริงนั้น พวกเขาเลือกที่จะไปในแนวทางที่ต่างไปจากงานถนัดของพวกเขา ที่ซึ่งก็ต้องไปแข่งกับเกมส์ในจักรวาลเดียวกันจากทาง Ubisoft และทีมงานผู้พัฒนา The Division ที่มีประสบการณ์มากกว่าในตัวเกมส์แนว Open World
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> pokdengkings.com